นวัตกรรมในอุตสาหกรรมก่อสร้างในปี 2024
ในยุคปัจจุบัน นวัตกรรมในอุตสาหกรรมก่อสร้างในปี 2024 ได้เปลี่ยนแปลงอย่างมาก ทั้งในด้านของวัสดุ เทคนิคการก่อสร้าง การใช้เทคโนโลยี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยครอบคลุมทุกด้าน
มาดูกันว่าภายในปี 2024 มีการอัพเดตนวัตกรรมในอุตสาหกรรมก่อสร้าง อะไรบ้าง
1. วัสดุก่อสร้างนวัตกรรมใหม่
นวัตกรรมในอุตสาหกรรมก่อสร้างในปี 2024 เห็นการเปิดตัววัสดุก่อสร้างที่มีคุณสมบัติพิเศษ เช่น คอนกรีตที่มีความยืดหยุ่นสูง หรือวัสดุที่สามารถซ่อมแซมตัวเองได้ วัสดุเหล่านี้ช่วยลดต้นทุนการบำรุงรักษาและยืดอายุการใช้งานของอาคาร
- คอนกรีตยืดหยุ่นสูง วัสดุคอนกรีตที่มีความยืดหยุ่นสูงได้รับความสนใจในการใช้ในโครงการก่อสร้างในปี 2024 นี้ คอนกรีตแบบนี้สามารถยืดหยุ่นได้ดีกว่าคอนกรีต และสามารถรับแรงกระทำต่างๆ ได้ดีขึ้น ทำให้สามารถสร้างโครงสร้างที่ทนทานและปลอดภัยมากขึ้นในสถานการณ์ต่างๆ
- วัสดุที่สามารถซ่อมแซมตัวเอง นวัตกรรมนี้มุ่งเน้นการพัฒนาวัสดุที่สามารถซ่อมแซมตัวเองเมื่อเกิดความเสียหาย สำหรับตัวอย่าง เครือ Dow Chemical ได้พัฒนาวัสดุพิเศษที่สามารถรักษาความคงทนไว้ในสภาวะแวดล้อมที่ทนต่อสภาวะอุณหภูมิสูงหรือต่ำ นี่คือการลดความต้องการในการซ่อมแซมและบำรุงรักษาอาคาร
- วัสดุอนุรักษ์แหล่งทรัพยากร ในพรมแดนของความยั่งยืน วัสดุที่ผลิตจากวัสดุก่อสร้างนวัตกรรมใหม่ในปี 2024 นี้มักมีความสามารถในการอนุรักษ์แหล่งทรัพยากรธรรมชาติ โดยใช้วัสดุทดแทนและวัสดุรีไซเคิล ที่ไม่ก่อให้เกิดสิ่งมลพิษและลดการใช้พลังงานในกระบวนการผลิต
- การผสมวัสดุใหม่ ในปี 2024 การผสมวัสดุต่างๆ เพื่อสร้างวัสดุใหม่ที่มีคุณสมบัติพิเศษได้รับความสนใจ ตัวอย่างเช่นการผสมคอนกรีตกับวัสดุทดแทนในสัดส่วนที่เหมาะสม เพื่อลดน้ำหนักและเพิ่มความแข็งแรงของโครงสร้าง
- การใช้งานวัสดุเชิงชีวภาพ วัสดุที่มาจากสิ่งมีชีวิต เช่น ไม้และใยสังเคราะห์ ได้รับความนิยมในการใช้ในโครงการก่อสร้าง วัสดุเหล่านี้มีคุณสมบัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีการบริโภคพลังงานต่ำ
- วัสดุสมาร์ท ในปี 2024 วัสดุสมาร์ทที่มีความสามารถในการรวมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารได้รับความสนใจ วัสดุเหล่านี้สามารถตรวจสอบสถานะของโครงสร้างและรายงานข้อมูลในเวลาเรียลไทม์
2. การใช้งานโดรน และเทคโนโลยี AR/VR
โดรนถูกใช้เพื่อการสำรวจและตรวจสอบความปลอดภัยของสถานที่ก่อสร้าง ในขณะที่ AR (Augmented Reality) และ VR (Virtual Reality) ใช้สำหรับการจำลองแบบอาคารและการฝึกอบรมให้กับพนักงาน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และลดข้อผิดพลาดในงานก่อสร้าง
การใช้งานโดรนในงานก่อสร้าง
- สำรวจและตรวจสอบ โดรนที่ติดตั้งกล้องและเซ็นเซอร์สามารถใช้สำรวจพื้นที่ก่อสร้างอย่างรวดเร็วและละเอียด นำข้อมูลกลับมาให้ทีมงานในเวลาเรียลไทม์เพื่อการตัดสินใจที่ถูกต้องและรวดเร็ว
- การตรวจสอบความปลอดภัย โดรนสามารถใช้ในการตรวจสอบความปลอดภัยของพื้นที่ก่อสร้าง การสร้างรูปภาพและวิดีโอของสถานที่ที่อาจมีความเสี่ยงเช่นเสาไฟฟ้าหรือโครงสร้างที่เสี่ยงต่ออันตราย เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
3. การออกแบบที่ยั่งยืน
นวัตกรรมในอุตสาหกรรมก่อสร้างในปีนี้เน้นการออกแบบที่ยั่งยืนมากขึ้น โดยใช้วัสดุที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยลง และการออกแบบที่เหมาะสมกับสภาพอากาศและสภาพแวดล้อมในแต่ละพื้นที่
- การใช้วัสดุยั่งยืน การเลือกใช้วัสดุที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยลงเป็นหนึ่งในแนวทางการออกแบบที่ยั่งยืน ในปี 2024 นี้มีการใช้วัสดุที่มีความยั่งยืน เช่น วัสดุรีไซเคิล วัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ และวัสดุที่มาจากแหล่งทดแทน เพื่อลดการใช้วัสดุที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
- การออกแบบที่ปรับเข้ากับสภาพแวดล้อม การออกแบบโครงสร้างและอาคารให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่ตั้งเป็นสิ่งสำคัญ นี้รวมถึงการคำนึงถึงการใช้พลังงานและการจัดการน้ำ โดยการใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะในการควบคุมการใช้พลังงานและการจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ
- การลดการสร้างขยะ การออกแบบที่ยั่งยืนในปี 2024 นี้มุ่งเน้นการลดการสร้างขยะในโครงการก่อสร้าง โดยใช้วัสดุที่มีระยะการใช้งานนานและไม่ต้องทิ้งทรัพย์สินที่ไม่จำเป็น เช่น การใช้วัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่หรือทำรีไซเคิล
- การใช้พลังงานอัจฉริยะ การนวัตกรรมในการจัดการพลังงานในโครงการก่อสร้างเพื่อลดการใช้พลังงานและเปลี่ยนแหล่งพลังงานเป็นที่มาจากแหล่งทดแทนได้รับความสำคัญ การใช้ระบบการจัดการพลังงานอัจฉริยะช่วยให้โครงการมีประสิทธิภาพในการใช้พลังงานและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
- การคำนึงถึงสังคม การออกแบบที่ยั่งยืนในปี 2024 นี้ต้องคำนึงถึงสังคมและผู้ใช้งานโครงการ โดยการสร้างพื้นที่ที่เป็นมิตรต่อผู้คนและสังคม โดยการเพิ่มพื้นที่สีเขียว พื้นที่สาธารณะ และการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของผู้ใช้งาน
-
ความท้าทายในปี 2024 ของอุตสาหกรรมก่อสร้าง
ภาคก่อสร้างยังเผชิญความท้าทายทั้งในปี 2024 และในระยะปานกลาง ทั้งต้นทุนก่อสร้างยังอยู่ในระดับสูง ความเสี่ยงด้านสภาพคล่องทางการเงิน และแรงกดดันในการลดการปล่อย CO2 ที่ส่งผลให้ผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างต้องปรับกลยุทธ์รับมือ ได้แก่
1) เพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ และควบคุมต้นทุนก่อสร้าง ด้วยการพัฒนาศักยภาพ และร่วมมือกับพันธมิตร เพื่อเข้าประมูลงานก่อสร้างได้อย่างหลากหลาย ร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) ระมัดระวังการเข้าประมูลแบบแข่งขันด้านราคา รวมถึงทำสัญญาสั่งซื้อวัสดุก่อสร้างล่วงหน้า อย่างสอดคล้องกับความต้องการใช้
2) บริหารสภาพคล่องทางการเงิน โดยปรับสัดส่วนการรับงานก่อสร้างภาครัฐ และเอกชนให้เหมาะสม รวมถึงดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จตามแผน เพื่อให้สามารถเบิกจ่ายได้ตามกำหนด
3) ลดการปล่อย CO2 ด้วยการหาพันธมิตรวัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ลงทุนนำเทคโนโลยีก่อสร้างมาใช้ ให้ความสำคัญกับการวัดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมถึงกำหนดเป้าหมาย และตัวชี้วัดด้านสิ่งแวดล้อม