กรมการขนส่งทางบก ได้ให้คำนิยมของรถบรรทุกไว้ว่า รถที่ใช้ในการขนส่งสัตว์หรือสิ่งของเพื่อค่าสินจ้างหรือเพื่อธุรกิจการค้าของตนเอง ซึ่งได้กำหนดลักษณะการใช้รถในการขนสิ่งของหรือสัตว์ โดยแยกออกเป็น ทั้งหมด 9 ลักษณะดังนี้
รถประเภท 2 รถตู้บรรทุก โดยรถที่ใช้ในการบรรทุกจะมีลักษณะเป็นตู้ทึบ และมีหลังคาและตัวถังที่บรรทุกระหว่างผู้โดยสารและผู้ขับเป็นตอนเดียว โดยจะมีประตูบานใหญ่ไว้สำหรับให้ผู้โดยสารขึ้นลง หรือจะเลือกเปิดท้ายก็ได้ ใช้สำหรับบรรทุกขนส่งสินค้าได้หลากหลายชนิด มีพื้นที่สำหรับบรรทุกสินค้ามาก
รถประเภท 3 รถบรรทุกของเหลว จะเป็นรถที่ใช้ในการบรรทุกของเหลวตามความเหมาะสมและจะต้องเป็นประเภทที่มีความปลอดภัย เช่นบรรทุกน้ำ, บรรทุกกากน้ำตาล เป็นต้น
รถประเภท 4 รถบรรทุกวัสดุอันตราย เป็นรถที่ใช้ในการบรรทุกเฉพาะเพื่อใช้ในการบรรทุกวัสดุอันตราย ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเชื้อเพลิง สารเคมี วัตถุระเบิด วัสดุไวไฟ ซึ่งจะมีลักษณะเฉพาะและมีป้ายเตือนอย่างชัดเจน ระบบป้องกันการรั่วไหลของวัสดุอันตราย เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
รถประเภท 5 รถบรรทุกเฉพาะกิจ ซึ่งเป็นรถที่ใช้ในการบรรทุกที่มีลักษณะพิเศษ เพื่อใช้ในการเฉพาะ เช่น รถบรรทุกเครื่องดื่ม รถผสมซีเมนต์ รถขยะมูลฝอย รถราดยาง หรือรถเครื่องทุ่นแรงต่าง ๆ เช่นงานก่อสร้าง เป็นต้น
รถประเภท 6 รถพ่วง จะเป็นรถที่ไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยตัวเอง ตัวหางพ่วงต้องอาศัยรถอื่นลากจูงโดยจะมีโครงรถที่มีเพลาล้อที่สมบูรณ์ในตัวเอง ส่วนตัวหัวพ่วงที่เป็นรถ สามารถบรรทุกสินค้าและมีจุดยึดต่อเพื่อลากส่วนหางได้ ทำให้สามารถบรรทุกสินค้าได้คราวละมากๆ ในเที่ยวเดียว
รถประเภท 7 รถกึ่งพ่วง (Semi Trailer) หรือรถหัวลากเทรลเล่อร์ ใช้หัวรถลากส่วนของหางเรียกว่าเทรลเล่อร์ และมีน้ำหนักของรถบางส่วนจะต้องเฉลี่ยลงบนเพลาล้อของคันที่ลากจูง ตัวหัวรถที่ลากสามารถถอดแยกออจากหางเทรลเล่อร์ได้
รถประเภท 8 รถกึ่งพ่วงบรรทุกวัสดุยาว รถเทรลเล่อร์ จะเป็นรถที่ไว้ใช้ในการขนสิ่งของที่ยาว โดยจะมีโครงโลหะที่สามารถปรับตัวได้ตามช่วงล้อลากจูง สามารถบรรทุกสินค้าได้มากที่สุด
รถประเภท 9 รถลากจูง จะเป็นรถที่เป็นลักษณะสำหรับใช้ลากรถพ่วง รถกึ่งพ่วง เพราะรถเหล่านั้นจะไม่สามารถที่ขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเองจึงต้องอาศัยรถประเภทนี้ในการลากจูง เป็นรถที่ใช้ลากรถบรรทุกคันอื่นที่เสียและขัดข้อง
ข้อกำหนดของรถลักษณะต่าง ๆ ที่หลายคนอาจจะเห็นเคยประเภทรถเหล่านี้กันมาแล้ว แต่อาจจะไม่ทราบถึงข้อกำหนดของหรือลักษณะของการใช้งาน เพราะว่าบางคนอาจจะใช้ผิดประเภท สำหรับรถบรรทุกที่ถูกต้องจะต้องเลือกใช้ให้ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด เพราะมีหลายคนที่นำรถมาดัดแปลงสภาพ ส่งผลให้เสี่ยงต่อการถูกจับ เพราะว่าคุณไม่มีใบอนุญาตที่ถูกต้องหรือได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เมื่อมีการร้องขอดูเอกสารจากผู้ที่ใช้รถและไม่มีเอกสารยืนยันอย่างถูกต้อง โอกาสที่จะถูกปรับมีสูงมาก แต่ถ้าตัวคนขับและเจ้าของกิจการได้ทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ว่าจะกี่ด่านก็ย่อมมีความปลอดภัย เมื่อเลือกใช้งานได้ถูกประเภท อย่างไรก็อุ่นใจมากกว่า ไม่ต้องหลบซ่อน หรือใช้วิธีพิเศษแต่อย่างได
เครดิต: trucktire.in.th