กฎระเบียบความปลอดภัยในการทำงานที่หัวหน้างานต้องทราบ

20/06/2019 | 14060

กฎระเบียบความปลอดภัยในการทำงานที่หัวหน้างานต้องทราบ


 

1.   กฎทั่วไปเกี่ยวกับความปลอดภัย

§          ผู้ปฏิบัติงานทุกคนต้องปฏิบัติตามระเบียบ คำแนะนำต่างๆ อย่างเคร่งครัด อย่าฉวยโอกาสหรือละเว้น ถ้าไม่ทราบไม่เข้าใจให้ถามเจ้าหน้าที่ความปลอดภัย หรือหัวหน้างาน

§          ผู้ปฏิบัติงานทุกคนเมื่อพบเห็นสภาพการทำงานที่ไม่ปลอดภัย หรือพบว่าเครื่องมือเครื่องใช้ชำรุดไม่อยู่ในสภาพที่ปลอดภัย ถ้าแก้ไขด้วยตนเองได้ให้ดำเนินการแก้ไขทันที ถ้าแก้ไขไม่ได้ให้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบโดยเร็ว

§          สังเกตและปฏิบัติตามป้ายห้ามป้ายเตือนอย่างเคร่งครัด

§          ห้ามบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปบริเวณทำงานที่ตนไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง

§          อย่าทำงานในที่ลับตาผู้คนเพียงคนเดียว โดยไม่มีใครทราบโดยเฉพาะการทำงานหลังเวลาทำงานปกติ

§          ต้องแต่งกายให้เรียบร้อยรัดกุม ไม่ขาดรุ่งริ่ง ห้ามมีส่วนยื่นห้อย และห้ามถอดเสื้อในขณะที่ปฏิบัติงานตามปกติ

§          ต้องใส่หมวกนิรภัยตลอดเวลาทำงานในสภาพปกติที่สามารถใส่ได้

§          ห้ามใส่รองเท้าแตะ และต้องใส่รองเท้าหุ้มส้นตลอดเวลาทำงานในสภาพปกติที่สามารถใส่ได้

§          ห้ามหยอกล้อเล่นกันในขณะปฏิบัติงาน

§          ห้ามเสพของมึนเมา และเข้ามาในสถานที่ปฏิบัติงานในลักษณะมึนเมาโดยเด็ดขาด

§          ห้ามปรับแต่ง หรือซ่อมแซมเครื่องจักรกลต่างๆ ที่ตัวเองไม่มีหน้าที่หรือไม่ได้รับอนุญาต

§          ให้ใช้อุปกรณ์ป้องกันต่างๆ และรักษาอุปกรณ์เหล่านั้นให้อยู่ในสภาพที่ดีอยู่เสมอ

§          ในการซ่อมแซมอุปกรณ์ต่างๆ ทางไฟฟ้า ต้องให้ช่างไฟฟ้าหรือผู้ที่รู้วิธีการเท่านั้นปฏิบัติหน้าที่นี้

§          เมื่อได้รับบาดเจ็บไม่ว่าจะเล็กน้อยเพียงใดก็ตาม ต้องรายงานให้หัวหน้างานและเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยทราบเพื่อสอบถามสาเหตุหาวิธีป้องกันและแจ้งให้ผู้ปฏิบัติงานอื่นๆ ทราบเพื่อจะได้รู้และหาวิธีการที่ดีกว่า และรับการปฐมพยาบาลเพราะหากปล่อยไว้อาจเกิดอันตรายในภายหลัง

§          ถ้าหัวหน้างานเห็นว่าผู้ใต้บังคับบัญชาไม่อยู่ในสภาพที่จะทำงานได้อย่างปลอดภัย ต้องสั่งให้หยุดพักทำงานทันที

2.   การรักษาความสะอาด และการจัดเก็บวัสดุในบริเวณสถานที่ทำงาน/การจัดการวัสดุก่อสร้าง

§          ผ้าที่เปื้อนน้ำมันต้องเก็บลงถังขยะที่ทำด้วยโลหะที่มีฝาปิดมิดชิดเพื่อป้องกันการติดไฟ

§          ห้ามจัดวางวัสดุที่ง่ายต่อการลุกไหม้ใกล้กับจุดติดตั้งหลอดไฟ หรือวัสดุที่มีความร้อน /มีประกายไฟ

ขยะในบริเวณที่ทำงานจะต้องเก็บกวาดให้สะอาดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย และลดการเกิดอุบัติเหตุ เป็นการป้องกันอุบัติภัยได้

§       ให้มีผู้ดูแลการจัดการวัสดุ  ซึ่งจะทำหน้าที่ควบคุมดูแลวัสดุก่อสร้างทุกชนิดที่เข้ามาที่หน้างานให้มีปริมาณ               เพียงพอในการใช้งาน  และคงไว้ซึ่งคุณภาพที่ดีตลอดไป

เมื่อจะมีการเคลื่อนย้ายวัสดุก่อสร้าง  จะต้องมั่นใจว่าไม่กีดขวางการทำงานก่อสร้างและไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อการจราจร

§          ไฟแสงสว่างในพื้นที่จัดเก็บวัสดุก่อสร้าง  จะต้องจัดเตรียมไว้ให้เพียงพอ  เพื่อให้การปฏิบัติงานต่างๆ  เป็นไปอย่างสะดวกและปลอดภัย

§          อุปกรณ์ที่ใช้ในการยก  จัดเก็บ  และขนย้ายวัสดุก่อสร้าง  จะใช้ให้เหมาะสม  และดูแลรักษาให้อยู่ในสภาพดีตลอดระยะเวลาทำงาน

§          การขนถ่ายวัสดุอันตราย  จะต้องกระทำตามคำแนะนำของผู้ผลิตอย่างเคร่งครัด

3.   การป้องกันอัคคีภัยและเครื่องดับเพลิง 

    (ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การป้องกันและระงับอัคคีภัยในสถานประกอบการเพื่อความปลอดภัยใน             การทำงานสำหรับลูกจ้าง ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2534 )

§          ปฏิบัติตามแผนป้องกันอัคคีภัย

§          การทำงานที่มีประกายไฟ และความร้อนใกล้กับวัสดุที่อาจติดไฟได้ ต้องจัดเตรียมเครื่องดับเพลิงตามจำนวนและชนิดที่เหมาะสมที่จะสามารถดับเพลิงได้ทันท่วงที

§          ห้ามสูบบุหรี่ในบริเวณที่มีป้ายห้ามสูบและบริเวณพื้นที่ก่อสร้างที่ไม่มีป้ายอนุญาตให้สูบบุหรี่ และเก็บขยะต่างๆ เช่น เศษผ้า,เศษกระดาษ หรือขยะอื่นๆ ที่ติดไฟได้ง่ายลงที่ที่จัดไว้ให้เรียบร้อย

§          ห้ามเทน้ำมันเชื้อเพลิงหรือของเหลวไวไฟลงไปในท่อน้ำหรือท่อระบายสิ่งโสโครกอื่นๆ

§          ห้ามทำให้เกิดประกายไฟในบริเวณที่เก็บวัตถุไวไฟ

§          ก่อนใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าต้องตรวจบริเวณรอยต่อ หรือข้อต่อต่างๆ ว่าแน่นหนาดีหรือไม่ ถ้าหลวมอาจเกิดประกายไฟหรือความร้อนซึ่งจะเป็นสาเหตุให้เกิดเพลิงไหม้ได้

§          ก่อนเลิกงานจะต้องตัดสวิทซ์ไฟฟ้าสำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้งานทุกจุด

§          เมื่อเกิดเพลิงไหม้ ให้ผู้ที่ประสบเหตุระงับหรือดับไฟโดยอุปกรณ์ดับเพลิงที่มีอยู่ ถ้าไม่สามารถดับด้วยตนเองได้ให้แจ้งผู้บังคับบัญชาทราบโดยเร็ว และปฏิบัติตามแผนการดับเพลิง (ตามรายละเอียดเอกสารแนบ 29)

            ต้องจัดให้มีเครื่องดับเพลิงตามลักษณะของเพลิงอันเนื่องมาจากวัตถุหรือของเหลวที่มีใช้งานอยู่เช่นเครื่องดับเพลิงชนิด ABC, DRY POWDER CHEMICAL หนัก 5-กิโลกรัม เป็นต้น โดยมีจำนวนตามที่กำหนดในประกาศอ้างถึง

            จัดให้มีการฝึกอบรมดับเพลิง โดยเชิญวิทยากรจากกองดับเพลิง หน่วยบรรเทาสาธารณภัย

4.   อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล

§          ต้องใส่หมวกนิรภัยตลอดเวลาที่ปฏิบัติงานตามสภาพงานที่สามารถสวมใส่ได้

§          ต้องใส่รองเท้าหุ้มส้นในขณะทำงานตลอดเวลาในสภาพงานที่สามารถใส่ได้ ห้ามใส่รองเท้าแตะ

§          ควรใช้ถุงมือที่เหมาะสมกับงานแต่ละชนิด

§          ต้องใช้เครื่องมือป้องกันหู หรือที่อุดหู ถ้าจำเป็นต้องทำงานในสภาพซึ่งมีเสียงดังกว่าปกติ

§          ผู้รับจ้าง/ผู้รับงานช่วง ต้องจัดหาให้ผู้ปฏิบัติงานตามข้อกำหนดของกฎหมาย ตามสภาพข้อกำหนดของสภาพการ    ปฏิบัติงานโดยทั่วไป บนดิน ใต้ดิน ใต้น้ำ บนที่สูงและบนภูเขา

§          หมวกนิรภัย รองเท้า ถุงมือ เครื่องป้องกันเสียง เครื่องป้องกันฝุ่น เครื่องป้องกันสายตา และอุปกรณ์ฉุกเฉิน                สำหรับการค้นหาได้ง่ายในกรณีเกิดอุบัติเหตุโดยมิได้คาดหมาย

5.   ความปลอดภัยในการทำงานเกี่ยวกับเครื่องมือ เครื่องจักร

(ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ความปลอดภัยในการทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร ลงวันที่ 23 กรกฎาคม 2519)

§          ต้องมีตระแกรงเหล็กเหนียว ครอบส่วนที่หมุน และส่วนส่งถ่ายกำลังให้มิดชิด

§          จัดทำที่ครอบป้องกันอันตรายจากเครื่องจักร และติดตั้งสายดินเพื่อป้องกันกระแสไฟฟ้ารั่ว

§          ผู้ที่ทำงานกับเครื่องจักรต้องสวมใส่เครื่องป้องกันอันตรายที่เหมาะสมตามสภาพและลักษณะงานอย่างเคร่งครัด

§          มีที่ปิดบังประกายไฟของเครื่องจักร

§          เมื่อซ่อมแซมต้องติดป้าย กำลังซ่อมห้ามเปิดสวิทซ์

§          ห้ามใช้เครื่องมือ เครื่องจักรผิดประเภท

§          ห้ามถือเครื่องมือโดยหิ้วที่สายไฟ และถอดปลั๊กโดยการดึงที่สายไฟ

§          เมื่อพบเครื่องมือเครื่องจักรชำรุดต้องหยุดการใช้ ตัดสวิทซ์จ่ายพลังงานแขวนป้าย ชำรุดห้ามใช้” และส่งซ่อมทันที

§          ห้ามโดยสารไปกับรถ หรือเครื่องจักรกลที่ไม่ได้ทำไว้เพื่อการโดยสาร

6.   ความปลอดภัยในการทำงานเกี่ยวกับสภาวะแวดล้อม

(ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ความปลอดภัยในการทำงานเกี่ยวกับภาวะแวดล้อม ลงวันที่ 12 พฤศจิกายน 2519)

§          บริเวณทำงานต้องมีแสงสว่างเพียงพอโดยสามารถมองเห็นได้ชัดเจนในระยะ ๒๐ ม.

§          ทางเดินต้องมีแสงสว่างเพียงพอ และมีตลอดเส้นทาง

§          หากเสียงดังขนาดยืนห่างกัน ๑ ม.แล้วต้องตะโกนพูดกัน  ต้องใช้เครื่องอุดหู หรือครอบหูลดเสียง

§          การทำงานที่มีแสงจ้า และรังสีจะต้องใส่แว่นตาป้องกันแสง และรังสี

§          การทำงานในบริเวณที่มีความร้อนสูงเกินกว่า 38 องศาเซลเซียสจะต้องมีการระบายความร้อน หรือสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันความร้อนที่เหมาะสม

§          การทำงานเกี่ยวกับสารเคมีที่มี กลิ่น ฝุ่น ละออง  แก๊ส ไอระเหย จะต้องสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันที่เหมาะสม

7.   ความปลอดภัยในการทำงานเกี่ยวกับวัสดุอันตราย

§          การจัดเก็บวัสดุไวไฟประเภทของเหล็ก  จะต้องจัดเก็บวัสดุอันตรายอยู่ในภาชนะที่มีฝาปิดสนิทแยกจากวัตถุไวไฟประเภทอื่น โดยต้องติดตั้งป้ายเตือนให้เห็นอย่างชัดเจน

§          ต้องมีการป้องกันเหตุการณ์ที่อาจนำไปสู่การเกิดเพลิงไหม้  ในบริเวณจัดเก็บวัสดุไวไฟ  โดยต้องติดตั้งป้ายห้ามสูบบุหรี่ให้เห็นอย่างชัดเจน

§          อุปกรณ์ดับเพลิง  ผู้รับจ้างจะจัดเตรียมให้มีอย่างพอเพียง  และอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานตลอดเวลา

§          ผู้รับจ้างจะจัดให้มีการระบายอากาศในบริเวณที่จัดเก็บอย่างเพียงพอ

§          ผู้ที่สามารถเข้าสู่พื้นที่จัดเก็บวัตถุไวไฟ  ต้องเป็นผู้ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น

§          ผู้รับจ้างจะจัดให้มีมาตรการป้องกันภาชนะบรรจุก๊าซจากอุณหภูมิ  ที่จะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างพอเพียง

§       สารเคมีอันตราย (ถ้ามี)  ผู้รับจ้างต้องปฏิบัติตามประกาศกระทรวงมหาดไทย  เรื่องความปลอดภัยในการทำงานเกี่ยวกับภาวะแวดล้อม (ถ้ามี)  ดูเอกสารแนบ  35  แบบแจ้งรายละเอียดของสารเคมีอันตรายในสถานประกอบกิจการ

8.   ความปลอดภัยในการใช้เครื่องตัด ดัดเหล็ก

§          ผู้ควบคุมเครื่อง และผู้ป้อนเหล็กจะต้องเป็นผู้ที่ชำนาญงาน และทำหน้าที่นี้ประจำเท่านั้น

§          ผู้ควบคุมเครื่อง และผู้ป้อนเหล็กต้องติดบัตรผู้ควบคุมเครื่อง และผู้ป้อนเหล็กไว้ให้เห็นได้ชัดตลอดเวลาที่ทำหน้าที่

§          ห้ามตัด หรือดัดเหล็กในขณะที่ผู้ป้อนเหล็กยังจับเหล็ก หรือตัวคน หรืออวัยวะของร่างกายอยู่ในบริเวณที่เหล็ก หรือเครื่องจักรอาจบีบ,ชน,กระแทกได้

§          การแบกหามเหล็ก เข้าเครื่องตัดหรือดัดจะต้องเป็นไปในทิศทางไปด้านเดียวเท่านั้นไม่มีการเดินสวนกันเพราะปลายเหล็กอาจทิ่มแทงกันได้

§          เศษเหล็กที่ใช้ไม่ได้แล้วจะต้องแยกขนาด และนำออกวันต่อวันไปเก็บไว้ในที่ทิ้งเศษเหล็ก

9.   ความปลอดภัยในการทำงานก่อสร้างว่าด้วยเขตก่อสร้าง

(ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ความปลอดภัยในการทำงานก่อสร้างว่าด้วยเขตก่อสร้าง ลงวันที่ 10 กันยายน 2528)

§          บริเวณเขตก่อสร้างต้องจัดทำรั้วหรือคอกกั้น พร้อมปิดป้ายประกาศบริเวณเขตก่อสร้างโดยรอบบริเวณที่ทำการก่อสร้าง “เขตก่อสร้าง บุคคลภายนอกห้ามเข้า

§          บริเวณเขตอันตรายต้องจัดทำรั้วหรือคอกกั้น พร้อมปิดป้ายประกาศบริเวณเขตอันตรายเขตอันตรายในการ           ก่อสร้างและมีไฟสัญญาณสีแดงแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนในเวลากลางคืน

§          ไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง หรือหมดหน้าที่เข้าไปในเขตก่อสร้าง และเขตอันตรายในการก่อสร้าง ยกเว้นแต่ได้รับอนุญาตจากนายจ้างหรือตัวแทน

§          ห้ามผู้ปฏิบัติงานพักอาศัยในบริเวณเขตก่อสร้าง

10.   ความปลอดภัยในการทำงานเกี่ยวกับปั้นจั่น

(ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ความปลอดภัยในการทำงานเกี่ยวกับปั้นจั่น ลงวันที่ 17 เมษายน 2530 )

§          ต้องปฏิบัติตามคู่มือการใช้ของผู้ผลิตอย่างเคร่งครัด

§          ต้องมีการแสดงพิกัดการยก คำเตือน และสัญญาณอันตราย

§          ในขณะปฏิบัติงานต้องมีผู้ให้สัญญาณเพียงคนเดียวต่อปั้นจั่นหนึ่งตัว และผู้ให้สัญญาณ กับผู้ควบคุมปั้นจั่นจะต้องเข้าใจสัญญาณกันเป็นอย่างดี

§          ต้องตรวจสอบปั้นจั่นทุก ๓ เดือนโดยวิศวกรซึ่งได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม ตามแบบ     ตรวจสอบของทางราชการ (แบบ คป.,คป.) และเก็บแบบตรวจสอบไว้พร้อมเรียกตรวจ

§          การปฏิบัติงานจะต้องมีระยะห่างจากสายไฟฟ้า และเสาโทรคมนาคมตามมาตรฐานกำหนดดังนี้ (แรงดันไฟฟ้า ๕๐ กิโลโวลท์มีระยะห่าง ๓ เมตร  และเพิ่มระยะห่าง ๑ ซม.ทุก ๑ กิโลโวลท์ แรงดันไฟฟ้าเกิน ๓๔๕ กิโลโวลท์แต่ไม่เกิน ๗๕๐ กิโลโวลท์ระยะห่างไม่น้อยกว่า ๕ เมตร)

§          ต้องมีราวกันตก และเข็มขัดนิรภัยถ้าทำงานบนแขนปั้นจั่น

§          อุปกรณ์การยกจะต้องรับน้ำหนักได้อย่างปลอดภัย

§          มุมการยก และการผูกมัดจะต้องถูกต้องปลอดภัย

§          ต้องสวมใส่อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล

11.   ความปลอดภัยในการทำงานเกี่ยวกับการตอกเสาเข็ม

(ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ความปลอดภัยในการทำงานเกี่ยวกับการตอกเสาเข็ม ลงวันที่ 21 ธันวาคม 2531)

§          ต้องจัดทำเขตอันตรายบริเวณที่ทำการตอกเสาเข็ม และทำการตรวจอุปกรณ์ต่างๆ ก่อนการตอกเสาเข็ม พร้อมจัดเก็บบันทึกไว้เป็นหลักฐาน

§          กรณีมีแนวสายไฟฟ้าอยู่ใกล้เคียงจุดตอกเสาเข็ม ต้องจัดให้มีระยะห่างระหว่างแนวสายไฟฟ้ากับโครงเครื่องตอกเสาเข็มตามที่กำหนด หรือประสานกับการไฟฟ้าเพื่อติดตั้งฉนวนหุ้มสายไฟฟ้า

§          อุปกรณ์การยกจะต้องรับน้ำหนักได้อย่างปลอดภัย

§          การผูกมัด และมุมการยกต้องถูกต้องปลอดภัย

§          ต้องปิดรูเสาเข็มหากรูมีเส้นผ่าศูนย์กลางกว้างเกิน ๑๕ ซม.

§          การตัดเสาเข็มหากหัวเสาเข็มอยู่ต่ำกว่าระดับผิวดินมากกว่า ๘๐ ซม.และหัวเสาเข็มมีเหล็กเส้นที่มีขนาดหน้าตัดน้อยกว่า ๓๐ มมโผล่ขึ้นมาสูงกว่า ๘ ซมจะต้องจัดทำที่ครอบหัวเสาเข็มเพื่อป้องกันคนพลาดตกลงไปถูกเหล็กเส้นทิ่มแทง

12.   ความปลอดภัยในการทำงานในสถานที่มีอันตรายจากการตกจากที่สูง วัสดุกระเด็น ตกหล่น และการพังทลาย      

(ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ความปลอดภัยในการทำงานในสถานที่มีอันตรายจากการตกจากที่สูง วัสดุกระเด็น ตกหล่น และการพังทลาย ลงวันที่ 18 ตุลาคม 2534)

§          งานที่สูง / ต่ำกว่า ๒ เมตรจากพื้นดินต้องมีบันไดขึ้นลงพร้อมราวจับอย่างน้อย ๑ ข้าง

§          ช่องเปิดหรือปล่องต่างๆ ต้องจัดทำฝาปิดหรือรั้วกั้นที่มีความสูงไม่น้อยกว่า 90 เซนติเมตรเพื่อป้องกันการตกหล่น

§          ต้องมีการปิดกั้นด้วยนั่งร้าน ตาข่ายป้องกันมิให้ผู้ที่ปฏิบัติงานตกหล่นลงมาจากที่สูง

§          พื้นที่ลาดชันระหว่าง ๑๕๓๐ องศานายจ้างจะต้องจัดการป้องกันมิให้ลูกจ้างตกหล่น

§          ต้องมีการป้องกันการพังทลาย และวัสดุกระเด็นตกจากที่สูงโดยทำผนังค้ำยัน ทำผ้าใบปิดกัน หรือทำที่รองรับ

§          ต้องสวมหมวกแข็งป้องกันศรีษะ รวมทั้งอุปกรณ์อื่นๆตามความเหมาะสมในระหว่างทำงานในที่สูง

13.   ความปลอดภัยในงานเชื่อม

§          เมื่อเลิกงานให้ดับสวิทซ์ไฟฟ้าที่จ่ายไปยังตู้เชื่อม

§          ถ้าจำเป็นต้องเชื่อมภาชนะที่มีสารไวไฟอยู่ภายใน เช่น ถังน้ำมัน จะต้องล้างทำความสะอาดเสียก่อน และก่อนเชื่อมจะต้องแน่ใจว่าไม่มีไอระเหยของสารไวไฟตกค้างอยู่

§        ก่อนจะเชื่อมจะต้องแน่ใจว่าไม่มีวัสดุติดไฟอยู่ใกล้กับบริเวณที่จะทำการเชื่อม ถ้ามีต้องทำการปิดป้องกันด้วยวัสดุ                  ที่เป็นฉนวนให้มิดชิด

§        ให้ระมัดระวังควันจากการเชื่อม โดยเฉพาะการเชื่อมตะกั่ว โลหะอาบสังกะสี เพราะควันจากการเชื่อมมีอันตราย                  มาก

§        ในกรณีที่ต้องเชื่อมในที่เปียกชื้นต้องสวมรองเท้ายาง และหาวัสดุที่เป็นฉนวนไฟฟ้ารองพื้นตรงจุดที่ทำการเชื่อม

§        การต่อสายดินต้องต่อให้แน่น จุดต่อต้องอยู่ในสภาพดี และให้ใกล้ชิ้นงานเชื่อมมากที่สุด

14.   ความปลอดภัยในงานตัดด้วยแก๊ส

§          ก่อนเคลื่อนย้ายถังอ๊อกซิเจน/แก๊ส ต้องถอดหัวปรับความดันออก และขณะเคลื่อนย้ายต้องปิดฝาครอบหัวถังด้วยทุกครั้ง ห้ามกลิ้งถัง

§          เมื่อต้องวางสายอ๊อกซิเจน/แก๊ส ข้ามผ่านทางต้องใช้วัสดุวางกั้นทั้งสองข้างหรือฝังกองดินทับเพื่อกันรถทับ

§          ตรวจสาย และถังอ๊อกซิเจน/แก๊ส เสมอๆ และทุกครั้งก่อนนำออกใช้ สายต้องไม่รั่วแตก ข้อต่อต้องไม่หลวม/รั่ว และห้ามใช้สายที่มีรอยไหม้

§          หัวตัดต้องมีวาล์วกันไฟย้อนกลับ (CHECK VALVE)

§          หัวตัดแก๊ส หัวปรับความดัน ถ้าเกิดบกพร่องต้องแจ้งหัวหน้าเพื่อเปลี่ยนหรือซ่อม

§          การต่อท่ออ๊อกซิเจน/แก๊ส ต้องใช้เข็มขัดรัดท่อ ห้ามใช้ลวดผูก

§          ถังอ๊อกซิเจน/แก๊ส ต้องวางตั้งและหาเชือกหรือโซ่ผูกให้มั่นคงกันล้ม

15.   ความปลอดภัยในงานเจียร์

§          ก่อนทำงานเจียร์ทุกครั้งต้องสวมแว่นตานิรภัย

§          ตรวจสอบเครื่องมือให้อยู่ในสภาพที่ปลอดภัย เครื่องเจียร์ต้องมีกำบังใบกันใบแตกกระเด็นโดนผู้ใช้

§          การเปลี่ยนใบเจียร์ทุกครั้งต้องดับสวิทซ์ และดึงปลั๊กไฟออก

§          เวลายกเครื่องเจียร์ให้จับที่ตัวเครื่อง อย่าหิ้วสายไฟโดยเด็ดขาด

16.   ความปลอดภัยในการทำงานบนที่สูง

§          พื้นที่สูงที่มีช่องเปิดต่างๆ รวมทั้งราวบันได ต้องทำราวกันตกที่มั่นคงแข็งแรง

§          พื้นรองรับขาตั้งและข้อต่อต่างๆ ของนั่งร้านจะต้องอยู่ในสภาพดีและมั่นคงและไม่สั่นคลอนในขณะทำงาน

§          พื้นไม้หรือเหล็กจะต้องยึดวางอย่างมั่นคงกับโครงสร้างของนั่งร้าน

§          โครงสร้างของนั่งร้านที่เป็นเสาค้ำยันจะต้องให้ได้ฉากกับแนวระดับ ชิ้นส่วนของนั่งร้านที่เสียหายห้ามนำมาใช้งานเด็ดขาด

§          ตรวจสอบอุปกรณ์ทุกชนิดที่เกี่ยวกับข้องกับการใช้งาน เช่น รถเครนลวดสลิงเชือกตะขอสะเก็น ว่าอยู่ในสภาพดีทุกครั้งก่อนเริ่มทำงาน หากชำรุดห้ามนำมาใช้

§          ผู้ปฏิบัติงานบนที่สูงเกิน เมตร ในที่โดดเดี่ยวเปิดโล่งต้องสวมเข็มขัดนิรภัยและคล้องเมื่ออยู่ในสภาพที่คล้องได้

§          ขณะที่มีพายุหรือฝนตก ผู้ปฏิบัติงานบนที่สูงต้องหยุดทำงานและลงมาข้างล่าง

§          ในกรณีที่พื้นนั่งร้านลื่นชำรุดหรือเป็นช่อง ต้องทำการแก้ไขโดยทันทีและห้ามใช้ไม้ที่ชำรุดผุกร่อนมาทำพื้นนั่งเรียบ นั่งร้านที่สูงกว่า เมตร ต้องมีราวกันตก สูง 90 ซม. แต่ไม่เกิน 1.10 เมตร

17.   ความปลอดภัยในการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้า

 (ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ความปลอดภัยเกี่ยวกับไฟฟ้า ลงวันที่ มีนาคม 2522)

§          จัดทำแผนผังวงจรไฟฟ้าชั่วคราวที่ใช้ในระหว่างก่อสร้าง พร้อมปรับปรุงข้อมูลในกรณีที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลง

§          จัดทำป้ายเตือนอันตรายติดตั้งไว้ในบริเวณจุดติดตั้งแผงควบคุมและหม้อแปลงไฟฟ้า เมื่อเกิดไฟฟ้าลัดวงจร หรือมีผู้ประสบอันตรายเนื่องจากกระแสไฟฟ้า ต้องทำการตัดกระแสไฟทันที ด้วยการปิดสวิทซ์ที่ใกล้ที่สุดโดยเร็วที่สุด

§          ถ้าพบอุปกรณ์ไฟฟ้าชำรุดต้องเลิกใช้และรีบแจ้งผู้รับผิอชอบทำการแก้ไขทันที

§          ารต่อเชื่อมอุปกรณ์ไฟฟ้าต้องใช้อุปกรณ์หรือชุดต่อที่เหมาะสม รอยต่อสายไฟทุกแห่งต้องใช้เทปพันสายไฟพันหุ้มลวดทองแดง ให้มิดชิด และแน่นหนาจนแน่ใจว่าจะไม่หลุด

§          หลอดไฟฟ้า และเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดที่จะทำให้เกิดความร้อนได้ไม่ควรให้อยู่ติดกับผ้าหรือเชื้อเพลิงอื่นๆ ที่อาจทำให้เกิดการลุกไหม้ได้ง่าย

§          ห้ามต่อสายไฟฟ้าโดยไม่ผ่านอุปกรณ์ตัด-จ่ายกระแสไฟ และห้ามใช้ตัวนำอื่นๆ แทนฟิวส์

§          ห้ามใช้สายไฟชนิดฉนวนชั้นเดียว (THW.) ให้ใช้สายไฟชนิดฉนวน 2 ชั้น (VCT.) (NYY.) ซึ่งทนทานที่จะใช้ในงานก่อสร้าง

§          การช่วยผู้ประสบอันตรายให้หลุดพ้นจากกระแสไฟฟ้า  อย่าเอามือเปล่าจับ  จงใช้ผ้า  ไม้  เชือก   สายยาง ที่แห้งสนิทดึงผู้ประสบอันตรายให้หลุดออกมา  และถ้าผู้ประสบอันตรายหมดสติให้รีบให้การปฐมพยาบาลโดยการเป่าลมทางปากและการนวดหัวใจ

§          ต่อสายดินกับโลหะที่ครอบเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดเพื่อป้องกันอันตรายเมื่อไฟฟ้ารั่ว

18.   ความปลอดภัยในการยกเคลื่อนย้ายของหนักด้วยมือ

§          ต้องสวมถุงมือชนิดต่างๆ ให้เหมาะสมกับวัสดุที่จะทำการยก

 

§       ถ้าของหนักเกินกว่าจะยกคนเดียวได้ให้เรียกคนมาช่วยมากพอที่จะยกได้โดยไม่ต้องฝืนออกแรงมากจนเกินกำลัง  งอเข่าและคู้ลงต่ำใกล้ของให้ลำตัวชิดของ ให้หลังตรงเกือบเป็นแนวดิ่งแล้วยืนขาทั้งสองขึ้น ให้ใช้ขายก อย่าใช้หลัง      ยก  เมื่อจะวางของให้ทำวิธีย้อนกลับตามวิธีเดิม

19.   ความปลอดภัยในการใช้เครื่องกลหนักและขนย้ายสิ่งของด้วยรถเครน

§          จัดให้มีผู้ให้สัญญาณที่ชำนาญเพียงคนเดียว ห้ามผู้ที่ไม่มีหน้าที่ให้สัญญาณในการยกมาร่วมให้สัญญาณเป็นอันขาด

§          อย่าเข้าใกล้ส่วนที่เครื่องจักรที่จะต้องหมุนเหวี่ยง

§          ในกรณีที่มีการขุด ต้องกั้นอาณาบริเวณไว้โดยรอบ

§          ห้ามเข้าไปอยู่ใต้วัสดุที่กำลังยกโดยเด็ดขาด

§          ในกรณีที่ทำงานในหลุมหรือเกี่ยวกับรถตักหรือขุด ต้องระวังการตั้งตำแหน่งของเครื่องจักรเหล่านี้ให้ห่างจากขอบบ่อ โดยกะระยะให้ปลอดภัยเพียงพอ เพื่อป้องกันการพังทลายของขอบบ่อ

20.   ความปลอดภัยในสำนักงานโครงการ

§          เก้าอี้ โต๊ะ และเฟอร์นิเจอร์ จะต้องไม่หลวมคลอนโยก จนเกิดอันตราย ต้องอยู่ในสภาพดีและใช้งานได้อย่างปลอดภัย

§          การปีนขึ้นไปเอาเอกสารในกรณีที่ต้องใช้บันได ขาบันไดต้องไม่ลื่น

§          การเดินตามทางเดิน ห้ามวิ่ง การเดินลงบันไดต้องจับราวบันได

§          อย่ายืนหรือคุยกันหน้าประตู อาจจะมีบุคคลอื่นเปิดเข้ามา

§          ขณะกำลังเดิน ห้ามอ่านหนังสือ เอกสาร นั่งให้เรียบร้อยเสียก่อน

§          อย่ายืนเกะกะกีดขวางทางเดินและบันได

§          ให้ระมัดระวังสายโทรศัพท์ที่อยู่ที่พื้นสำนักงาน อาจจะสะดุดได้

§          ประตู ตู้เก็บเอกสารปิดให้เรียบร้อย

§          ลิ้นชักที่ดึงออกมาอย่าค้างไว้ เมื่อใช้แล้วดันเก็บเข้าที่เดิม

§          ให้ตรวจสอบ ตู้ โต๊ะ เฟอร์นิเจอร์ ที่ใช้สกรูต่างๆ อาจจะหลวม

§          เก็บมีดตัดกระดาษและของมีคมที่นำมาใช้ให้เรียบร้อย

§          ต้องแน่ใจว่าเครื่องอุปกรณ์คอมพิวเตอร์วางอยู่บนโต๊ะที่แข็งแรง

§          ขณะที่อุปกรณ์สำนักงาน กำลังทำงาน ห้ามปรับ-แต่งหรือซ่อมแซม

§          อย่าซ่อมไฟฟ้าในสำนักงานด้วยตนเองให้เรียกช่างไฟฟ้า

§          ปฏิบัติโดยเคร่งครัดในกรณีบางพื้นที่ห้ามสูบบุหรี่

21.   ตรวจความปลอดภัยของตะขอ (HOOK) , เสกน (Shackle) , ลวดสลิง โซ่ยก สลิงยก, ตะขอ (HOOK)                    

§       ห่วงตะขอ (Eye) ยึดติดกับสลิงในแนวดิ่ง  การใช้งานเกิดการเสียดสีกับส่วนของสลิงจนทำให้ความโต หรือ               เส้นผ่าศูนย์กลางของเหล็กที่ใช้ทำห่วงสึกหรอไป  ถ้าการสึกหรอนั้นยังไม่เกิน 10  จากมาตรฐานเดิม  ถือว่ายังไม่ได้

§       ตัวล็อคสลิง (Safety Latches)  ชุดล็อคป้องกันสลิงหลุดจากตะขอต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่ายังอยู่ในสภาพที่ดี  เมื่อนำสลิงใส่กับตะขอแล้ว  สปริงตัวล็อคต้องดันกลับไม่ให้สลิงหลุด

§       ท้องตะขอ  คือจุดยกวัสดุโดยมีสลิงคล้องยกในแนวดิ่ง  หรือทำมุมยกจากแนวดิ่งไม่เกินข้างละ   45 °  เมื่อใช้งานจะเกิดการเสียดสีกับห่วงโซ่ยก  หรือสลิงยก  ถ้าการสึกหรอนั้นยังไม่เกิน  10 จากมาตรฐานเดิม  ถือว่ายังอยู่ในสภาพที่ดี

§       คอตะขอ (throat)  คือส่วนที่มีความแคบสุดของช่องเปิดของตัวตะขอ  เมื่อใช้งานไปนานๆ ส่วนนี้(throat opening)จะอ้าออก ถ้าส่วนที่อ้าออกนี้  ยังไม่เกิน  15 %  ของความอ้าปกติ  ถือว่าตะขอนี้ยังมีสภาพดีใช้ได้

§          ตัวตะขอ  หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของตะขอต้องไม่มีรอยร้าว

§          ปลายแหลมของตะขอ  หรือปากตะขอ  ต้องไม่บิดตัวไปเกินกว่า  10 °  จากแนวดิ่ง

เสกน  (Shackle)

เป็นห่วงใส่สลัก  ใช้เป็นจุดยึดต่อระหว่างสลิงหรือโซ่กับตะขอ  เพื่อใช้ในงานยก

§          ห้ามใช้  BOLT  หรือ  SCREW  ใส่แทนสลักเกลียว (Shackle Pin)  เพราะจะไม่แข็งแรงเพียงพอ

§          ห้ามยกโดยเสกนเอียงเป็นมุม  ซึ่งจะเป็นเหตุให้ขาเสกนอ้าถ่างออก

§          อย่าใช้ลวดสลิง  หรือสลิงยกสัมผัสกับสลักเกลียวโดยตรง  การเลื่อนของลวดสลิงจะหมุนสลักเกลียวคลายตัวหลุดได้

ลวดสลิง (Wire Rope)

ลวดสลิง  จะต้องมีการตรวจเมื่อมีการติดตั้งใช้งานทุกครั้ง  โดยหัวหน้างานและผู้ปฏิบัติงานสำหรับลวดสลิงทั้งชนิดวิ่งของรถปั้นจั่น  จะมีการตรวจโดยผู้บังคับเครนก่อนเริ่มปฏิบัติงานทุกวัน  และมีการตรวจประจำเดือนโดยฝ่ายความปลอดภัยร่วมกับหัวหน้างานทุกเดือน ตามแบบฟอร์มในเอกสารแนบ

§          ที่ความยาว 8 เท่าของเส้นผ่าศูนย์กลาง ถ้ามองเห็นมีเส้นลวดขาดหรือแตกเกิน10ของเส้นลวดทั้งหมด ถือว่าหมดอายุใช้งาน

§          ลวดสลิงที่มีแผล ,  หักงอ ,  หรือถูกกัดกร่อน  ต้องห้ามใช้งาน

§       สำหรับลวดวิ่ง  ถ้าพบมีเส้นลวดขาด  6  เส้นใน  1  รอบของการตีเกลียว  หรือลวดขาด  3  เส้นใน  1  แสตรนด์  อย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสองอย่าง  ถือว่าหมดอายุใช้งาน

§          มีรอยการถูกไฟไหม้  ต้องห้ามใช้

§          เมื่อลวดสลิงเกิดการสึกหรอจนเส้นผ่าศูนย์กลางเล็กลงกว่า  %  จากมาตรฐานเดิม  ห้ามนำกลับมาใช้งาน

โซ่ยก  (Chain sling)

§          ห้ามใช้โซ่ยก  ที่มีรอยแตกร้าว  ตัวโซ่คดงอผิดรูป

§          ตรวจสอบการสึกหรอ  ที่จุดใดๆ  ของโซ่ยก  ด้วยตารางข้างล่างนี้

ขนาดโซ่

(นิ้ว)

สึกหรอได้สูงสุด

(นิ้ว)

ขนาดโซ่

(นิ้ว)

สึกหรอได้สูงสุด

(นิ้ว)

1/4

3/8

1/2

5/8

3/4

7/8

3/16

5/64

7/64

9/64

5/32

11/64

1

1  1/8

1  1/4

1  3/8

1  1/2

1  3/4

3/16

7/32

1/4

9/32

5/16

11/32

 

สลิงยก (Wire  Rope  Sling)

§          สลิงยกที่มีเส้นลวดขาด  6  เส้นใน  1  รอบของการตีเกลียว (1  rope lay)  หรือมีเส้นลวดขาด 3 เส้นใน  1                                         แสตรนด์  ถือว่าหมดอายุใช้งาน

§          สลิงที่มีการสึกหรอมากกว่า  1  ใน  3  ของเส้นผ่านศูนย์กลางเดิม  ถือว่าหมดอายุการใช้งาน

§          การหักงอ  หรือแตกออกเป็นรูปกรงนก  หมดอายุใช้งาน

§          สลิงยกที่มีรอยถูกไฟไหม้  หมดอายุการใช้งาน

§          สลิงที่มีรอยแตกร้าวที่ปลาย  Fittings  ทั้งสองข้าง  หรือมีการกร่อนที่ลวดสลิง  ห้ามใช้งาน

22.   ความปลอดภัยรถเครน

      รถเครนทุกคันรวมทั้งเครนชนิดอยู่กับที่ จะต้องได้รับการตรวจสอบทุก เดือน ตามแบบฟอร์ม คป.2 ของกระทรวงแรงงานและลงนามโดยวิศวกรเครื่องกล จึงจะอนุญาตให้ปฏิบัติงานในโครงการได้

§          พนักงานควบคุมเครนจะต้องปฏิบัติงานใช้เครนและซ่อมบำรุงตามที่ผู้สร้างได้กำหนดมาตรฐานไว้เท่านั้น

§          ก่อนใช้เครนปฏิบัติงานของพนักงานแต่ละผลัดจะต้องตรวจสอบสภาพของเครนก่อนปฏิบัติงานทุกวัน

§          พิกัดการยกน้ำหนัก และมุมของบูมจะต้องเป็นไปตามตารางของเครนที่ผู้สร้างได้กำหนดไว้

§          ห้ามซ่อมบำรุงเครนขณะที่เครนกำลังทำงาน

§          ใช้สัญญาณมาตรฐานสากลเท่านั้นในการให้สัญญาณ

§          ปิดกันบริเวณที่เครนหมุนตัว ห้ามบุคคลอื่นเข้าไปในบริเวณนั้น

§          ห้ามเกาะที่ขอเครนโดยเด็ดขาด

§          มีเครื่องดับเพลิงชนิด ABC, 5 กกเคมีผงติดตั้งที่เครนพร้อมใช้ได้ตลอดเวลา

§          กระเดื่องที่ตะขอของเครนต้องมีและใช้ได้ตลอดเวลา เพื่อป้องกันสลิงหลุดออกจากตะขอ

§          ต้องมีลูกศรชี้มุมของบูมแสดงองศาตลอดเวลา

§          การปฏิบัติงานใกล้กับสายไฟฟ้า ให้ปฏิบัติตามบทกำหนดของประกาศกระทรวงแรงงานโดยเคร่งครัด

23.   ความปลอดภัยว่าด้วยบันได

§          การใช้บันไดจะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตบันไดโดยเคร่งครัด

§          ควรใช้บันไดที่ผลิตจากโรงงานชนิดบันไดใช้กับงานหนัก (Heavy duty)

§          บันไดที่ชำรุด แตก หัก ห้ามใช้และควรติดป้าย ห้ามใช้งาน

§          ห้ามนำบันได อันมามัดต่อกันเพื่อให้ยาวขึ้น

§          บันไดชนิดตรงเมื่อพาดใช้งานจุดใดควรมัดติดให้แข็งแรงด้วย

§          อย่าตั้งบันไดบริเวณที่ลื่น มีขยะ

§          ตีนบันไดจะต้องตั้งห่างจากฝาที่ตั้งเป็นอัตรา ต่อ ของความสูงบันได

§          ปลายของบันไดต้องเกินจากจุดที่พาดผ่าน ฟุต

§          บันไดที่ใช้อยู่ใกล้บริเวณทางเดิน ประตู ควรมีสิ่งกีดขวางไว้ เช่น เชือกขาว-แดง แผงป้องกันปิดกั้นไว้

§          การขึ้นลงบันไดให้หันหน้าเข้าหาบันได

§          ห้ามยกของแบกของขึ้นทางบันได

§          ห้ามใช้บันไดโลหะกับงานไฟฟ้าโดยเด็ดขาด

24.   ความปลอดภัยว่าด้วยนั่งร้าน

(ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย  เรื่อง  ความปลอดภัยในการทำงานก่อสร้างว่าด้วยนั่งร้าน  ลงวันที่  30  มิถุนายน  2525)

§          ทำงานในที่สูงเกินกว่า 2.00 เมตร ต้องทำนั่งร้าน

§          นั่งร้านเสาเรียงเดี่ยวสูงเกิน เมตร หรือนั่งร้านสูงเกิน 21 เมตร ต้องมีวิศวกรรับรองตามแบบฟอร์มของกระทรวงแรงงาน

§          นั่งร้านสร้างด้วยโลหะต้องรับน้ำหนักบรรทุกได้ไม่น้อยกว่า เท่า ของน้ำหนักการใช้งาน

§          โครงนั่งร้านต้องมีการยึดโยงค้ำยัน เพื่อป้องกันมิให้เซหรือล้ม และในกรณีที่ต้องทำงานใกล้แนวสายไฟที่ไม่มีฉนวนต้องมีระยะห่างไม่น้อยกว่าที่กำหนด หรือติดต่อการไฟฟ้ามาทำการติดตั้งฉนวนครอบสายไฟชั่วคราว

§          มีราวกันตกสูงไม่น้อยกว่า 90 ซมและสูงไม่เกิน 1.10 เมตร ยกเว้นเฉพาะช่วงที่จะขนถ่ายสิ่งของ

§          ถ้าพบนั่งร้านชำรุดห้ามใช้งานทันทีจนกว่าจะได้ทำการซ่อมแซมแก้ไขให้สภาพดีเหมือนเดิม

§          ถ้ามีการทำงานซ้อนกัน ต้องมีสิ่งป้องกันของตกมิให้เป็นอันตรายแก่ผู้ปฏิบัติงานอยู่ข้างล่าง

§          การทำงานอยู่บนนั่งร้านสูงเกินกว่า เมตร ผู้ปฏิบัติงานต้องสวมเข็มขัดนิรภัย

25.   ความปลอดภัยรถยนต์และเครื่องมือหนักและการจราจร

§          เมื่อรถจอดต้องดึงเบรคมือล็อคล้อรถทุกครั้ง

§          เครื่องมือหนักทุกชนิดห้ามโดยสาร

§          ห้ามเข้าไปนั่งอยู่ข้างล่างใบมีด ลูกล้อ หรือไปนอนในบุ้งกี๋ แทรค หรือส่วนใดของเครื่องจักร

§          อุปกรณ์ไฮดรอลิคจะต้องเอาลงหมดเมื่อเครื่องจักรจอด เช่น ใบมีด บุ้งกี๋ ริปเปอร์

§          ถ้ามีการซ่อมแซมอุปกรณ์ยกไฮดรอลิคของเครื่องจักรต้องมีเหล็กค้ำยัน (Safety Bar)  กันตกขณะซ่อมแซม

§          มองหลังทุกครั้งที่ถอยรถหรือเครื่องจักร

§          ดับเครื่องยนต์ขณะเติมน้ำมันเชื้อเพลิง

§          ควรมีกระบังหน้าเมื่อเติมน้ำกลั่นแบตเตอรี่ หรือขณะต่อสายแบตเตอรี่

§          ความเร็วในบริเวณก่อสร้าง 20 กม./ชมและต้องปฏิบัติตามเครื่องหมายจราจรอย่างเคร่งครัด

26.   ป้ายเตือนความปลอดภัย

§          จัดหาป้ายเตือนตามมาตรฐานสากลติดบริเวณที่ทำงานก่อสร้าง

§          ติดป้ายห้ามสูบบุหรี่บริเวณที่เก็บเชื้อเพลิง เก็บอ๊อกซิเจน อะซิเทลีน และห้องเก็บสีหรือสารไวไฟ

27.   การปฐมพยาบาล

§          จัดให้มีห้องปฐมพยาบาลในโครงการ

§          จัดหายาตามที่ระบุในประกาศกระทรวงแรงงานแจ้งไว้

§          จัดฝึกการปฐมพยาบาลเบื้องต้นโดยคัดเลือกพนักงานเข้ามาอบรม

28.   ความปลอดภัยงานขุดขนดิน

§          การขุดดินกรณีที่ขุดติดกับทางสาธารณะต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ไฟฟ้า ประปา องค์การโทรศัพท์เพื่อชี้จุดที่จะขุด

§          ถ้าขุดใกล้สายไฟใต้ดินจะต้องมีป้ายบอก และตัดสะพานไฟ

§          การขุดใกล้สายไฟให้ขุดด้วยมือ เมื่อตรวจพบแล้วจึงจะเริ่มขุดด้วยรถแบ็คโฮ (Backhoe)

§          มีเชือกกั้นแบ่งเขตที่ขุดและติดป้ายบอก ในเวลากลางคืนต้องติดไฟส่องสว่างให้เห็นได้ชัดเจน

§          ถ้าต้องขุดลึกถึง ฟุต ต้องปรับดินให้ราบเป็นมุม 45 องศา หรือมีผนังกันดินถล่ม พร้อมทั้งจัดบันไดไว้ขึ้นลงได้          โดยสะดวก

§          ถนนที่เป็นทางผ่านเข้า-ออกไปขุดดิน จะต้องสะอาดและมีแผงกั้นตลอดเวลา

§          ห้ามวางวัสดุไว้บนปากบ่อที่ขุดในระยะ ฟุต จากปากบ่อ

§          คนงานขุดดินต้องสวมหมวกแข็งและรองเท้าพื้นยางหุ้มส้น

§          มีป้ายติดตั้ง ระวังวัสดุหล่นมีคนทำงานอยู่ข้างล่าง” อยู่ด้านบน

29.   ความปลอดภัยลิฟท์ขนส่งวัสดุ

     (ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องความปลอดภัยในการทำงานก่อสร้างว่าด้วยลิฟท์ขนส่งวัสดุชั่วคราว ลงวันที่ 29 มกราคม 2524)

§          ลิฟท์ที่มีความสูงเกิน 9.00 เมตร จะต้องมีเอกสารรับรองการออกแบบและคำนวณโครงสร้างลิฟท์ โดยใช้แบบฟอร์มของกระทรวงแรงงาน

§          หอลิฟท์สามารถรับน้ำหนักได้ไม่น้อยกว่า เท่าของน้ำหนักแห่งการใช้งาน (Working Load) มีส่วนความปลอดภัยไม่น้อยกว่า 5 (Safety Factor)

§          หอลิฟท์ที่สร้างด้วยโลหะจะต้องมีจุดคราก (Yield Point) ไม่น้อยกว่า 2,400 Kg/Cm2 และมีส่วนความปลอดภัยไม่น้อยกว่า 2 (Safety Factor = 2)

§          ตัวลิฟท์ต้องรับน้ำหนักได้ไม่น้อยกว่า เท่าของน้ำหนักแห่งการใช้งาน

§          หอลิฟท์จะต้องโยงยึดกับอาคารอย่างแข็งแรง รวมถึงติดตั้งราวกันตกความสูงระหว่าง 90 – 110 เซนติเมตร บนทางเชื่อมระหว่างหอลิฟท์กับสิ่งปลูกสร้าง

§          ต้องปิดกั้นบริเวณที่ลิฟท์ขึ้นลงมิให้คนเข้าไป

§          ผู้บังคับลิฟท์จะต้องได้รับการอบรมการบังคับลิฟท์อย่างปลอดภัย

§          มีป้ายติดไว้ด้านหน้า ซึ่งจะแจ้งถึงข้อบังคับการใช้ลิฟท์

§          มีการตรวจสอบลิฟท์ทุกวัน

§          เมื่อเกิดการชำรุด หรืออยู่ในระหว่างซ่อมแซม ห้ามใช้ลิฟท์โดยเด็ดขาดจนกว่าจะซ่อมแซมแล้วเสร็จ

§          มีป้ายแจ้งพิกัดน้ำหนักอย่างชัดเจน

30.   การควบคุมยาเสพติดและแอลกอฮอล์

§          เป็นนโยบายบริษัทจะไม่ให้มีการขายยาเสพติดในบริเวณเขตก่อสร้าง โดยจะประสานงานกับตำรวจท้องที่ตลอดเวลา

§          ห้ามขายสุรายาบ้าและเครื่องดื่มที่ผสมแอลกอฮอล์ในเขตก่อสร้างของบริษัทโดยเด็ดขาด

§          จะมีการสุ่มตรวจสอบคนงานที่มีพฤติกรรมน่าสงสัย โดยส่งตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด ถ้าตรวจพบจะเลิกจ้างทันทีและส่งตัวเข้ารับการรักษา

§          ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุในเขตก่อสร้าง จะตรวจสอบว่าส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากยาเสพติดและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ผสมหรือไม่

ขอบคุณข้อมูลจาก   craft-skill.com